วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ระบบเครือ แลน แวน แมน ผสม

 

ความหมายของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ( Computer Network ) หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปเข้าด้วยกันด้วยสายเคเบิล หรือสื่ออื่นๆ ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถรับส่งข้อมูลแก่กันและกันได้ในกรณีที่เป็นการเชื่อม ต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลาง เราเรียกคอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลางนี้ว่า โฮสต์ (Host) และเรียกคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เข้ามาเชื่อมต่อว่า ไคลเอนต์ (Client)ระบบเครือข่าย (Network) จะเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเพื่อการติดต่อสื่อสาร เราสามารถส่งข้อมูลภายในอาคาร หรือข้ามระหว่างเมืองไปจนถึงอีกซีกหนึ่งของโลก ซึ่งข้อมูลต่างๆ อาจเป็นทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ก่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็วแก่ผู้ใช้ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ทำให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์มีความสำคัญ และจำเป็นต่อการใช้งานในแวดวงต่างๆ
แล้วทำไมเราถึงต้องใช้เครือข่าย หรือระบบคอมพิวเตอร์เครือข่าย การที่เรานำเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกัน เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากระบบ หรือระบบสามารถทำอะไรได้บ้าง ทำให้ใช้ทรัพยากร ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ร่วมกันได้ (Resources Sharing) ซึ่งเป็นการช่วย ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสะดวก ในการใช้งาน เช่น การใช้พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ และเครื่องพิมพ์ร่วมกันสามารถบริหารจัดการการทำงานของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ได้จากศูนย์กลาง (Centralized Management) เช่น สร้างเวิร์กกรุป กำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล และสามารถทำการ สำรองข้อมูล ของแต่ละเครื่องได้ สามารถทำการสื่อสาร ภายในเครือข่าย (Communication) ได้หลายรูปแบบ เช่น อีเมล์, แชท (Chat), การประชุมทางไกล (Teleconference), และ การประชุมทางไกล แบบเห็นภาพ (Video Conference)มีระบบรักษาความปลอดภัย ของข้อมูล บนเครือข่าย (Network Security) เช่นสามารถ ระบุผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล ในระดับต่างๆ ป้องกันผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาติ เข้าถึงข้อมูล และให้การคุ้มครอง ข้อมูลที่สำคัญ ให้ความบันเทิงไม่รู้จบ (Entertainment) เช่น สามารถสนุกกับ การเล่นเกมส์ แบบผู้เล่นหลายคน หรือที่เรียกว่า มัลติ เพลเยอร์(Multi Player) ที่กำลัง เป็นที่นิยมกันอยู่ในเวลานี้ได้
ใช้งานอินเทอร์เน็ต ร่วมกัน (Internet Sharing) เพียงต่อเข้าอินเทอร์เน็ต จากเครื่องหนึ่งในเครือข่าย โดยมีแอคเคาท์เพียงหนึ่งแอคเคาท์ ก็ทำให้ผู้ใช้อีกหลายคน ในเครือข่ายเดียวกัน สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ เสมือนกับมีหลายแอคเคาท์
ฯลฯ

ระบบเครือข่ายชนิดต่างๆ

ระบบเครือข่าย สามารถเรียกได้ หลายวิธี เช่นตามรูปแบบ การเชื่อมต่อ (Topology) เช่น แบบบัส (bus), แบบดาว (star), แบบวงแหวน (ring) หรือจะเรึยกตามขนาด หรือระยะทางของระบบก็ได้ เช่นแลน (LAN), แวน (WAN), แมน (MAN) นอกจากนี้ ระบบเครือข่าย ยังสามารถ เรียกได้ตาม เทคโนโลยีที่ไช้ ในการส่งผ่านข้อมูล เช่น เครือข่าย TCP/IP, เครือข่าย IPX, เครือข่าย SNA หรือเรียกตาม ชนิดของข้อมูล ที่มีการส่งผ่าน เช่นเครือข่าย เสียงและวิดีโอ
เรายัง สามารถจำแนกเครือข่ายได้ ตามกลุ่มที่ใช้เครือข่าย เช่น อินเตอร์เน็ต (Internet), เอ็กซ์ตร้าเน็ต (Extranet), อินทราเน็ต (Intranet), เครือข่ายเสมือน (Virtual Private Network) หรือเรียก ตามวิธีการ เชื่อมต่อทางกายภาพ เช่นเครือข่าย เส้นใยนำแสง, เครือข่ายสายโทรศัพท์, เครือข่ายไร้สาย เป็นต้น จะเห็นได้ว่า เราสามารถจำแนก ระบบเครือข่าย ได้หลากหลายวิธี ตามแต่ว่า เราจะพูดถึง เครือข่ายนั้นในแง่มุมใด เราจำแนก ระบบเครือข่าย ตามวิธีที่นิยมกัน 3 วิธีคือ รูปแบบการเชื่อมต่อ (Topology), รูปแบบการสื่อสาร (Protocol), และ สถาปัตยกรรมเครือข่าย (Architecture)
การจำแนกระบบเครือข่าย ตามรูปแบบการเชื่อมต่อ (Topology) จะบอกถึงรูปแบบ ที่ทำการ เชื่อมต่ออุปกรณ์ ในเครือข่ายเข้าด้วยกัน ซึ่งมีรูปแบบที่นิยมกัน 3 วิธีคือ

แบบบัส (bus)

แบบบัส (bus)
ในระบบเครือข่าย โทโปโลยีแบบ BUS นับว่าเป็นแบบโทโปโลยีที่ได้รับความนิยมใช้กันมากที่สุดมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เหตุผลอย่างหนึ่งก็คือสามารถติดตั้งระบบ ดูแลรักษา และติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ง่าย ไม่ต้องใช้เทคนิคที่ยุ่งยากซับซ้อน ลักษณะการทำงานของเครือข่ายโทโปโลยีแบบ BUS คืออุปกรณ์ทุกชิ้นหรือโหนดทุกโหนด ในเครือข่ายจะต้องเชื่อมโยงเข้ากับสายสื่อสารหลัก ที่เรียกว่า "บัส" (BUS) เมื่อโหนดหนึ่งต้องการจะส่งข้อมูลไปให้ยังอีกโหนด หนึ่งภายในเครือข่าย ข้อมูลจากโหนดผู้ส่ง จะถูกส่งเข้าสู่สายบัส ในรูปของแพ็กเกจ ซึ่งแต่ละแพ็กเกจจะประกอบด้วยตำแหน่งของ ผู้ส่งและผู้รับ และข้อมูล การสื่อสารภายในสายบัส จะเป็นแบบ 2 ทิศทางแยกไปยังปลายทั้ง 2 ด้านของบัส โดยตรงปลายทั้ง 2 ด้านของบัสจะมีเทอร์มิเนเตอร์ (Terminator) ทำหน้าที่ดูดกลืนสัญญาณ เพื่อป้องกันไม่ให้สัญญาณข้อมูลนั้นสะท้อนกลับ เข้ามายังบัสอีก เป็นการป้องกันการชนกันของสัญญาณ ข้อมูลอื่น ๆ ที่เดินทางอยู่บนบัส สัญญาณข้อมูลจากโหนดผู้ส่ง เมื่อเข้าสู่บัสจะไหลผ่านไปยังปลายทั้ง 2 ข้างของบัส แต่ละโหนดที่เชื่อมต่อเข้ากับบัส จะคอยตรวจดูว่าตำแหน่งปลายทาง ที่มากับแพ็กเกจข้อมูลนั้น ตรงกับตำแหน่งของตนหรือไม่ ถ้าใช่ก็จะรับข้อมูลนั้นเข้ามาสู่โหนดตน แต่ถ้าไม่ใช่ ก็จะปล่อยให้สัญญาณข้อมูลนั้นผ่านไป จะเห็นว่าทุก ๆ โหนดภายในเครือข่ายแบบ BUS นั้นสามารถรับรู้สัญญาณข้อมูลได้ แต่จะมีเพียงโหนดปลายทางเพียงโหนดเดียวเท่านั้น ที่จะรับข้อมูลนั้นไปได้
การควบคุมการสื่อสารภายในเครือข่ายแบบ BUS มี 2 แบบคือ แบบควบคุมด้วยศูนย์กลาง (Centralized) ซึ่งจะมีโหนดหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมการสื่อสารภายในเครือข่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไฟล์เซิร์ฟเวอร์ การควบคุมแบบกระจาย (Distributed) ทุก ๆ โหนดภายในเครือข่าย จะมีสิทธิในการควบคุมการสื่อสาร แทนที่จะ เป็นศูนย์กลางควบคุมเพียงโหนดเดียว ซึ่งโดยทั่วไปคู่โหนดที่กำลังทำการส่ง-รับ ข้อมูลกันอย ู่จะเป็นผู้ควบคุมการสื่อสารในเวลานั้นข้อดีข้อเสียของโทโปโลยีแบบบัส

แบบดาว (star)

แบบดาว (star)
เป็นหลักการส่งและรับข้อมูล เหมือนกับระบบโทรศัพท์ การควบคุมจะทำโดยสถานีศูนย์กลาง ทำหน้าที่เป็นตัวสวิตชิ่ง ข้อมูลทั้งหมดในระบบเครือข่าย จะต้องผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลาง (Center Comtuper) เป็นการเชื่อมโยงการติดต่อสื่อสาร ที่มีลักษณะคล้ายกับรูปดาว (STAR) หลายแฉก โดยมีศูนย์กลางของดาว หรือฮับ เป็นจุดผ่านการติดต่อกันระหว่างทุกโหนดในเครือข่าย ศูนย์กลาง จึงมีหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมเส้นทางการสื่อสารทั้งหมด นอกจากนี้ศูนย์กลางยังทำหน้าที่ เป็นศูนย์กลางข้อมูลอีกด้วย
การสื่อสาร ภายในเครือข่ายแบบ STAR จะเป็นแบบ 2 ทิศทาง โดยจะอนุญาตให้มีเพียงโหนดเดียวเท่านั้น ที่สามารถส่งข้อมูลเข้าสู่เครือข่ายได้ จึงไม่มีโอกาสที่หลายๆ โหนดจะส่งข้อมูลเข้าสู่เครือข่ายในเวลาเดียวกัน เพื่อป้องกันการชนกันของสัญญาณข้อมูล เครือข่ายแบบ STAR เป็นโทโปโลยี อีกแบบหนึ่ง ที่เป็นที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ข้อดีของเครือข่ายแบบ STAR คือการติดตั้งเครือข่ายและการดูแลรักษาทำได้ง่าย หากมีโหนดใดเกิดความเสียหาย ก็สามารถตรวจสอบได้ง่าย และศูนย์กลางสามารถตัดโหนดนั้นออกจากการสื่อสาร ในเครือข่ายได้

แบบวงแหวน (ring)

แบบวงแหวน (ring)

เครือข่ายแบบ RING เป็นการส่งข่าวสารที่ส่งผ่านไปในเครือข่าย ข้อมูลข่าวสารจะไหลวนอยู่ในเครือข่าย ไปในทิศทางเดียว เหมือนวงแหวน หรือ RING นั่นเอง โดยไม่มีจุดปลาย หรือเทอร์มิเนเตอร์ เช่นเดียวกับเครือข่ายแบบ BUS ในแต่ละโหนดหรือสเตชั่น จะมีรีพีตเตอร์ประจำโหนด 1 เครื่อง ซึ่งจะทำหน้าที่เพิ่มเติมข่าวสารที่จำเป็นต่อการสื่อสาร ในส่วนหัวของแพ็กเกจข้อมูล สำหรับการส่งข้อมูลออกจากโหนด และมีหน้าที่รับแพ็กเกจข้อมูล ที่ไหลผ่านมาจากสายสื่อสาร เพื่อตรวจสอบว่าเป็นข้อมูล ที่ส่งมาให้โหนดตนหรือไม่ ถ้าใช่ก็จะคัดลอกข้อมูลทั้งหมดนั้น ส่งต่อไปให้กับโหนดของตน แต่ถ้าไม่ใช่ก็จะปล่อยข้อมูลนั้นไปยังรีพีตเตอร์ของโหนดถัดไป

โทโปโลยีแบบผสม (Hybridge Topology)

โทโปโลยีแบบผสม (Hybridge Topology)
เป็นเครือข่ายการสื่อสารข้อมูลแบบผสมระหว่างเครือข่ายแบบใดแบบหนึ่งหรือ มากกว่า เพื่อความถูกต้องแน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและภาพรวมขององค์กร

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

ไม้ปัดขนไก่

ประวัติความเป็นมา
เป็นเครื่องมือสำหรับทำความสะอาดพื้นต่าง ๆ มีหลายชนิดควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะของงานดังนี้
 
ไม้กวาดดอกหญ้า 
ด้ามจับทำด้วยไม้กลม เช่น ไม้ไผ่ ปลายทำด้วยดอกหญ้ามัดติดกับด้าม ควรเลือกด้ามจัดที่ไมี่มีมอดกัดกินด้าม จับถนัดมือปลายดอกหญ้าหนา ใช้กวาดพื้นเรียบแห้ง เช่น พื้นไม้ พื้นซีเมนต์ขัดมัน พื้นหินอ่อน เป็นต้น เก็บรักษาโดยเอาเชือกร้อยที่ปลายไม่กวาดแขวนให้ปลายดอกหญ้าสูงกว่าพื้นเล็กน้อย หรือเอาด้ามลงตั้งกับพื้นพิงกำแพงให้ปลายดอกไม้กวาดตั้งขึ้น จะทำให้ปลายไม้กวาดไม่หักงอ ใช้งานได้นาน
ไม้กวาดดอกหญ้าเทียม 
ใช้เส้นทองเหลืองทำเทียมดอกหญ้า จึงสามารถใช้กวาดพื้นเปียกชื้นได้ และสามารถล้างทำความสะอาดขี้ฝุ่นตามเส้นทองเหลทองได้ เก็บรักษาแบบเดียวกับไม้กวาดดอกหญ้า มาพร้อมที่ตักมีจำหน่ายที่โฮมโปร
ไม้กวาดทางมะพร้าว
ทำด้วยทางมะพร้าว มี 2 ชนิด คือ ชนิดมีปลอกสวมและชนิดมีด้ามจับ ซึ่งทำด้วยไม้ไผ่กลม เลือกชนิดที่มีด้ามตรง จับเหมาะมือ ด้ามไม่มีมอดกัด ทางมะพร้าวไม่บางเกินไป ส่วนชนิดที่มีปลอกสวมควรเลือกมีปลอกสวมแน่นหนา ใช้กวาดได้ทั้งพื้นผิวหยาบและผิวเรียบ กวาดได้ทั้งพื้นแห้งและเปียกน้ำหรือพื้นที่มีน้ำขัง ใช้กวาดน้ำเมื่อล้างพื้นประเภทต่างๆ เช่น พื้นซีเมนต์ พื้นกระเบื้อง เป็นต้น เก็บในที่ร่มและแห้ง ไม่ตากแดดตากฝน โดยการแขวนหรือวางตั้งกับพื้นโดยเอาด้ามลง
ไม้กวาดเสี้ยนตาล
ปลายสำหรับกวาดทำด้วยเสี้ยนตาล ด้ามทำด้วยไม้ไผ่กลมเล็ก ด้ามยาวประมาณ 3 เมตร ควรเลือกที่มีด้ามตรง เสี้ยนตาลมัดติดกับด้ามแน่นหนา ใช้ทำความสะอาดที่สูง เช่น กวาดเพดาน ปัดหยากไย่ เป็นต้น ควรเก็บในที่ร่มและแห้ง ไม่ตากแดดตากฝน วางตั้งกับพื้นหรือพิงไว้เอาด้ามลง
ไม้กวาดไม้ไผ่
ทำจากไม้ไผ่ทั้งด้ามจับและปลายไม้กวาด มีลักษณะเป็นซี่หลายซี่ มัดด้วยเชือกหรือหวายแผ่เป็นแผง ควรเลือกที่มีด้ามตรง ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ไม่มีมอดกัด รอยมัดแน่นหนา ใช้กวาดใบไม้ในสนามหญ้า กวาดเศษกระดาษบนพื้น ควรเก็บในที่ร่มและแห้ง ไม่ควรตากแดดตากฝน จัดเก็บโดยการเขวนหรือวางราบกับพื้น หรือวางพิงเอาด้ามลง
ไม้ปัดฝุ่นขนไก่
เป็นพู่ทำด้วยขนไก่ ยาวประมาณ 25 – 50 เซนติเมตร ด้ามจับมีทั้งที่เป็นหวายและพลาสติก ถ้าด้ามจับทำด้วยหวาย ปลายด้ามจะโค้งงอ ถ้าด้ามจับเป็นพลาสสติกจะมีรูไว้แขวน ควรเลือกที่ขนติดแน่นกับด้ามและหนาพอสมควร ใช้ปัดฝุ่นในที่ต่างๆเช่น บนโต๊ะ เก้าอี้ ขอบหน้าต่าง เป็นต้น เก็บในที่แห้ง โดยวิธีแขวนและเคาะฝุ่นก่อนจัดเก็บ
ไม้กวาดไนลอน
เป็นไม้กวาดสมัยใหม่ ด้ามทำด้วยพลาสติก ส่วนปลายที่ใช้กวาด ทำด้วยเส้นใยไนลอน มีหลายชนิด มีทั้งที่ใช้กวาดพื้นเรียบเช่นเกี่ยวกันกับไม้กวาดดอกหญ้า ชนิดกวาดพื้นหยาบ เช่นเดียวกันกับไม้กวาดทางมะพร้าว และบางชนิดจะมีพู่ใช้ปัดฝุ่นเช่นเดียวกันกับไม้ปัดฝุ่นขนไก่ ควรเลือกที่ด้ามจับเหมาะมือ ใช้ส่วนปลายสำหรับกวาดยึดติดกับด้ามแน่นหนา จัดเก็บโดยวิธีแขวน หรือตั้งด้ามพิงให้ปลายไม้กว่าขึ้นจะได้ไม่เสียรูปทรง


วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

ที่ตักผง


พื้นสะอาด
     การกวาดและถูพื้น  เป็นงานบ้านที่ทำให้บ้านสะอาด  น่าอยู่  ดังนั้นเราควรเรียนรู้เครื่องมือที่ใช้กวาดและถูพื้น  และวิธีกวาดและถูพื้นที่ถูกต้อง
     1.  การกวาดพื้น          1.1  เครื่องมือที่ใช้ในการกวาดพื้น
                 1.  ไม้กวาดดอกหญ้า
                      วิธีใช้  จับไม้กวาดเอียงเล็กน้อย  หันปลายไม้กวาดออก  แล้วค่อย ๆ กวาดสิ่งสกปรกมากองรวมกันไว้  จากนั้นกวาดเศษผงใส่ที่ตักผง  แล้วนาไปทิ้งในถังขยะ
  2.  ไม้กวาดทางมะพร้าวด้ามสั้น
                      วิธีใช้  จับไม้กวาดตรงปลอกหุ้มให้เอียงเล็กน้อย  แล้วนั่งยอง ๆ กวาดเศษขยะหรือน้ำในทิศทางเดียวกัน  เวลากวาดน้ำไม่ควรสะบัดปลายไม้กวาด  เพราะทำให้น้ำกระเซ็นเปียกตัวเรา
                 3.  ไม้กวาดทางมะพร้าวด้ามยาว
                      วิธีใช้  ใช้มือที่ถนัดจับที่ด้านบนของด้ามไม้กวาด  และใช้มือข้างที่ไม่ถนัดจับให้ต่ำลงมา  แล้วกวาดโดยเอียงไม้กวาดเล็กน้อย
                 4.  ที่ตักผง
                      วิธีใช้  จับบริเวณด้ามของที่ตักผง  แล้วใช้ไม้กวาดดอกหญ้ากวาดเศษผงใส่ที่ตักผง  เพื่อนำขยะหรือเศษผงไปทิ้งได้สะดวก
          1.2  การกวาดพื้น
                 1.  การกวาดพื้นไม้
                      1)  เลือกใช้ไม้กวาดดอกหญ้ากวาดแล้วกวาดเศษผงไปในทิศทางเดียวกัน
                      2)  กวาดพื้นให้ทั่ว  ถ้าเป็นพื้นไม้ให้กวาดไปตามแนวยาวของแผ่นไม้  และกวาดตามบริเวณมุมห้อง  ใต้เตียง  ใต้โต๊ะ  หรือใต้ตู้ด้วย  เพราะบริเวณนี้มีฝุ่นมาก
                      3)  กวาดเศษผงกองรวมไว้ที่ใดที่หนึ่ง  แล้วใช้ที่ตักผงตักเศษผงไปทิ้งในถังขยะ
เกร็ดน่ารู่คู่บ้าน
     บ้านที่ปูพื้นด้วยพรม  ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นละอองออกจากพรม  เพราะไม้กวาดไม่สามารถทำให้ฝุ่นละอองหลุดออกจากพรมได้

                 2.  การกวาดพื้นซีเมนต์ที่มีน้ำขัง
                     1)  ใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวด้ามสั้นกวาด
                     2)  กวาดน้ำที่พื้นไปในทางเดียวกัน
                     3)  กวาดน้ำให้ไหลลงทางระบายน้ำจนหมด
                 3.  การกวาดพื้นนอกบ้าน
                      การกวาดพื้นประเภทอื่นที่ไม่ใช้พื้นบ้าน  เช่น  พื้นดิน  พื้นทราย  เราต้องเลือกใช้ชนิดของไม้กวาดให้ถูกต้องเช่นกัน
                      1)  พื้นดินหยาบหรือดินทราย  ใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวด้ามยาวกวาด
                      2)  พื้นที่ที่มีบริเวณแคบ  ใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวด้ามสั้นกวาด
     2.  การถูพื้น
         
2.1  เครื่องมือที่ใช้ในการถูพื้น
                1.  ผ้าถูพื้นไม้หรือถูพื้นซีเมนต์ที่มีบริเวณแคบ  เพราะไม่ต้องใช้แรงมากนัก
                     วิธีใช้  ใช้ถูพื้นหรือถูพื้นซีเมนต์ที่มีบริเวณแคบ  เพราะไม่ต้องใช้แรงมากนัก
                2.  ผ้าถูพื้นมีด้าม
                     วิธีใช้  ใช้ถูพื้นไม้  พื้นซีเมนต์  พื้นปูกระเบื้องที่มีบริเวณกว้าง ๆ เพราะจะช่วยผ่อนแรงในการถู
                3.  กะละมัง
                     วิธีใช้  ใช้ซักผ้าถูพื้นที่มีด้าม  โดยตักน้ำใส่ประมาณครึ่งกะละมัง  จุ่มผ้าถูพื้นลงไปในกะละมัง  แล้วซักให้สะอาด
                4.  ถังน้ำ
                     วิธีใช้  ใช้ซักผ้าถูพื้นที่ไม่มีด้าม  โดยตักน้ำใส่เกือบเต็มถัง  จุ่มผ้าถูพื้นลงในถังและซักให้สะอาด
           2.2  วิธีถูพื้น
                  1.  วิธีถูพื้นโดยใช้ผ้าถูพื้นไม่มีด้าม
                       1)  ซักผ้าถูพื้นให้สะอาด  แล้วบิดหมาด ๆ
                       2)  แล้วคลี่ผ้าออกแล้วถูพื้นให้ทั่ว  และหมั่นซักผ้าถูพื้นบ่อย ๆ
                  2.  วิธีถูพื้นโดยใช้ไม้ถูพื้น
                       1)  ซักผ้าถูพื้นให้สะอาด  แล้วบิดหมาด ๆ
                       2)  แล้วคลี่ผ้าออกแล้วถูพื้นให้ทั่ว  และหมั่นซักผ้าถูพื้นบ่อย ๆ
เกร็ดน่ารู้คู่บ้าน
     การถูพื้น  ให้ถูจากด้านในออกมาด้านนอกเพื่อไม่ให้เราเดินย่ำพื้นบ้านที่ถูแล้ว  ถ้าเป็นพื้นไม้ควรถูตามแนวยาวของพื้นกระดาน  เพราะจะทำให้ถูได้ง่าย

ไม้ถูพื้น

ประวัติความเป็นมาของไม้ถูพื้น
ไม้ถูพื้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเหมือนกันคือต้องใช้ในการทำความสะอาดทุกวันเหมือนกับไม้กวาด
ไม้ถูพื้นเกิดจากการที่มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งในหมู่บ้านตำบลบุญเกิดเกิดความว่างงานขาดรายได้ไม่มีเงิน
ใช้ในชีวิตประจำวันผู้ใหญ่บ้านจึงได้มองเห็นถึงความสำคัญของความอยากลำบากของชาวบ้าน
จึงคิดหาอาชีพเสริมให้กับชาวบ้านหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากไร่นาเสร็จจึงได้นึกถึงที่มีในหมู่บ้าน
คือผ้าเศษจากการตัดผ้าและได้มีความคิดว่าจะนำผ้าเหล่านั้นมาทำไม้ถูจึงมาทำการทดลอง
จนได้ไม้ถูที่สำเร็จหล้ังจากนั้นจึงได้เรียก


ไม้กวาด

ประวัติความเป็นมา


      จุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์และภูมิปัญญาการทำไม้กวาด คือ  เมื่อหลายปีที่ผ่านมา  ชาวบ้านก็มีอาชีพเสริม เช่น  การจักรสาน  การทำแคบหมู  การปุ๋ยชีวภาพ  เป็นต้น  แต่อาชีพเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านดำรงชีพได้อย่างเพียงพอ  จึงได้ช่วยกันคิดหาอาชีพเสริม  โดยได้คิดที่จะผลิตไม้กวาด  เพราะไม้กวาดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันทุกครัวเรือนและใช้ทุกวัน ทำให้หมดไปและต้องซื้อใช้กันเป็นประจำ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ยากต่อการทำ ต้นทุนน้อย ใช้ระยะเวลาทำไม่นาน ใช้ทำในเวลาว่างก็ได้ เก็บไว้ได้นานไม่เสีย และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบตามความต้องการของตลาดได้

               โดยในหมู่บ้านก็ยังมี  นายจันทร์   กันติ๊บ  ที่ยังพอมีความรู้และสามารถผลิตไม้กวาดได้  จึงได้ยกระดับหันมาทำไม้กวาด  โดยให้นายจันทร์   กันติ๊บ  เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้การทำไม้กวาดให้ และได้เรียนรู้ด้วยการไปซื้อไม้กวาดจากหมู่บ้านอื่นมาแกะดูว่ามีวิธีการทำอย่างไร แล้วลองฝึกทำใช้เอง ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้วิธีการทำไม้กวาดด้วยตัวเอง และทางกลุ่มการทำไม้กวาดยังมีการสอนสมาชิกที่ต้องการจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และชาวบ้านที่มีเวลาว่างจากเสร็จสิ้นอาชีพหลัก 









งานบ้านน่าสนใจ


งานบ้านสบาย